15 ความจริงทางวิทยาศาสตร์สุดมหัศจรรย์ ที่น่าสนใจ แต่ที่โรงเรียนไม่เคยสอน

49915

วิยาศาสตร์นั้นเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ แต่มันก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ จริงๆ แล้วมันควรจะมีวัตถุประสงค์ แต่ก็มีเรื่องราวที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย ซึ่งอาจจะใช้เวลายาวนานถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเลยทีเดียว กว่าจะคิดได้ว่าข้อมูลที่ได้รับมานั้นมันผิด

 

อย่างเมื่อสมัยก่อน ผู้คนนั้นปฏิเสธที่จะเชื่อว่าจริงๆ แล้วโลกของเรา และดาวทั้งหลายนั้น ต่างโคจรรอบดวงอาทิตย์ จนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง กาลิเลโอ ได้พิสูจน์ แต่ถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์จะมาไกลขนาดไหน ก็ยังจะมีคนเชื่อข้อมูลแบบผิดๆ อยู่อีก

วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับหลายๆ คนในสมัยเรียน แต่ตอนนี้อาจเป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับคุณก็เป็นได้

พบับความจริงที่น่าสนใจทางวิทยาศาสตร์​ ที่คุณอาจไม่เคยได้เรียนในโรงเรียน

1. นักวิทยาศาสตร์ค้นพบสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่เฉลี่ย 41 สายพันธุ์ในทุกๆ วัน

 

2. คำว่า “นักวิทยาศาสตร์ (Scientist)” ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี 1833

 

3. นักวิทยาศาสตร์สรุปได้แล้วว่า ไก่เกิดก่อนไข่ เพราะโปรตีนที่มาจากเปลือกไข่ ถูกผลิตโดยแม่ไก่เท่านั้น

 

4. ในปี 2012 คลารา ลาเซน หนูน้อยวัย 10 ขวบคนหนึ่งได้สร้างโมเลกุลใหม่ขึ้นโดยบังเอิญ โดยมันมีชื่อว่า Tetranitratoxycarbon

 

5. นักวิทยาศาสตร์บริสตอล สามารถใช้ฉี่ช่วยในการชาร์จมือถือได้

 

6. สิ่งมีชีวิตที่มีอายุยืนที่สุดเท่าที่โลกเคยบันทึกมาคือ หอยกาบ ที่มีอายุถึง 507 ปี แต่นักวิทยาศาสตร์เผลอทำมันตายโดยบังเอิญในขณะที่ขุดมันขึ้นมาเพื่อนำกลับมายังห้องแล็ป

 

7. แผ่นดินไหว สามารถเปลี่ยนน้ำเปล่าให้กลายเป็นทองได้

 

8. ฟ้าผ่า มีความร้อนสูงกว่าพื้นผิวดวงอาทิตย์ถึง 5 เท่า

 

9. การกินแซลมอน จะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น เนื่องจากมันประกอบไปด้วยโอเมก้า 3 วิตามินดี และโปรตีน

 

10. ฝน มีส่วนประกอบของ วิตามินบี 12

 

11. น้ำร้อนสามารถกลายเป็นน้ำแข็งได้เร็วกว่าน้ำเย็น โดยมันถูกเรียกว่า Mpemba Effect ซึ่งเกิดขึ้นในบางสถานการณ์

 

12. ต้องใช้เวลา 1 แสนปีแสง ในการเดินทางจากสุดขอบกาแลคซี่ทางช้างเผือกไปยังอีกฝั่ง

 

13. ถ้าคุณพับกระดาษ 1 แผ่น ทบกันครบ 50 ครั้ง ความหนาของมันจะมากกว่าระยะทางจากโลกไปดวงอาทิตย์

 

14. นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มนุษย์คนแรกที่ติดเชื้อ HIV อาศัยอยู่ในเมืองคินชาซา ประเทศคองโก เมื่อประมาณปี 1920

 

15. ไดโนเสาร์ที่เรารู้จักกันส่วนมาก มาจากศึกษากระดูกและฟันเท่านั้น เพราะฉะนั้น ไดโนเสาร์ของจริงอาจแตกต่างจากที่เรารู้จักก็เป็นได้

 

ที่มา : snoopdara