หนุ่มจีนโพสต์ระบายความซวย ถูกสั่งกักตัว 14 วัน 3 รอบติด

810

เนื่องจากเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้หลายประเทศต้องออกมาตรการเพิ่มป้องกันการระบาด หนึ่งในมาตรการที่ทุกประเทศต้องทำคือผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงจะต้องกักตัวอยู่บ้าน ไม่เพียงเท่านั้นกลุ่มที่ไปพบปะกับกลุ่มเสี่ยงก็จะเป็นต้องถูกกักตัวเช่นกัน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความซวยของหนุ่มจีนรายนี้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายซง หนุ่มชาวจีนจากเมืองจี่หนิง มณฑลซานตง ถูกรัฐสั่งให้กักตัวอยู่ในบ้านของเขาเป็นเวลา 14 วัน หลังจากที่เขาเดินทางกลับมาจากประเทศฟิลิปปินส์ นี่ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไปที่ใครเดินทางกลับมาจากต่างประเทศต้องเจอ และหลังจากนั้น 2 วัน เมืองจี่หนิงก็ถูกสั่งปิดอย่างเป็นทางการ

แต่ความซวยของเขาไม่ได้จบแค่นั้น เพราะหลังจากเวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ ในที่สุดเขาก็พร้อมที่จะออกมาชมสายลมและแสงแดดอีกครั้ง แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด

นายซงกล่าวว่า “ผมถูกสั่งให้กักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ผมก็อยู่บ้านอย่างเชื่อฟังนานถึง 14 วันเต็ม หลังจากหมดระยะเวลากักตัว ผมก็ตัดสินใจออกมาเดินเล่นข้างนอก ทันที่ผมก้าวเท้าพ้นประตูออกมา ปรากฏว่าเพื่อนบ้านของผมเพิ่งกลับมาจากเกาหลีใต้ เขาเดินตรงมาหาผมพร้อมกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ผลักผมเข้าไปในห้อง และบอกให้ผมกักตัวอีก 14 วัน ผมเลยไม่กล้าออกไปไหนอีก”

ดูเหมือนความซวยของนายซงจะไม่หมดแค่นั้น เขากล่าวต่อไปอีกว่า “ผมคิดว่าการอยู่ห้องไปอีก 14 วันจะต้องผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมนอนอยู่เฉย ๆ โดยไม่ได้ทำอะไรทั้งวัน จนในที่สุด ระยะเวลาการกักตัวของผมก็สิ้นสุดลงอีกครั้ง แต่แล้วพี่ชายของผมก็กลับมาจากสิงคโปร์ …. ผมจึงถูกสั่งให้กักตัวอีก 14 วัน สรุปแล้วผมนอนกลิ้งอยู่บนพื้นห้องมาเกือบ 50 วัน ผมไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย”

ใบประกาศถูกติดอยู่หน้าประตูบ้านของนายซง ระบุว่า เขาต้องถูกกักตัวอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ถึง 14 มีนาคม

เรื่องราวของนายซงกลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็วหลังจากที่เขาเปิดเผยเรื่องนี้ผ่านคลิปวีดีโอในโซเชียลเน็ตเวิร์คในจีนจนมีคนดู 180 ล้านครั้งภายใน 24 ชม. ถึงแม้เรื่องนี้ฟังดูแล้วอาจเหมือนกับเรื่องตลก แต่ถ้าหากใครต้องมาเจอเรื่องนี้ด้วยตัวเองก็อาจตลกไม่ออกเช่นกัน แต่สิ่งที่เรื่องนี้สอนให้เราได้รู้ก็คือ ถึงแม้นายซงจะโดนกักตัวที่อะพาร์ตเมนต์ของเขาถึง 3 ครั้งติดกัน แต่เขาก็มีความรับผิดชอบทั้งกับตัวเองและสังคมเป็นอย่างดี

ที่มา : ananova, kittam